top of page

indomitable



ถึงแม้จะมี COVID 19 ก็ไม่หวั่นถ้าใจเราถึงซึ่งความดีพระพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ.พระวิหารเชตวัน เมืองสาวัตถี ได้ตรัสกะพระภิกษุทั้งหลายถึงเรื่อง ธรรมของคนดี สัปปุริสธรรม และธรรมของคนชั่ว อสัปปุริสธรรม พอสรุปได้ว่าธรรมะของคนชั่ว คือ..................................

๑.ผู้ออกบวชจากสกุลสูง

๒.ผู้ออกบวชจากสกุลใหญ่

๓.ผู้มีคนรู้จัก มียศ

๔.ผู้มีลาภ

๕.ผู้มีการศึกษามาก

๖.ผู้ทรงจำวินัย

๗.ผู้เป็นนักพูดธรรมะ

๘.ผู้อยู่ป่า

๙.ผู้นุ่งห่มผ้าบังสุกุล

๑๐.ผู้ถือบิณฑบาต

๑๑.ผู้อยู่โคนไม้

๑๒.ผู้อยู่ป่าช้า

๑๓.ผู้ได้รูปฌานที่ ๑ ถึงที่ ๔ และผู้ที่ได้อรูปฌานที่ ๑ ถึงที่ ๔ รวม ๒๐ พวกใน ๒๐ พวกนี้ที่เป็นคนชั่ว คือ มักจะยกตนข่มขี่ผู้อื่น เพราะเหตุที่ตนอยู่ใน ๒๐ พวกนั้นอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ หลายอย่างก็ได้ จัดว่าเป็น อสัปบุรุษ คือ คนชั่วทั้งสิ้น ส่วนคนดี ย่อมพิจารณาเห็นว่า ความโลภ ความโกรธ และความหลง ย่อมไม่อาจ หมดไปได้เพราะการอยู่หรือได้ฐานะ ๒๐ ประการนั้น ถึงแม้ไม่อยู่ในฐานะทั้ง ๒๐ นั้น แต่เป็นผู้ปฏิบัติ


ธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตนสมควร คนทั้งหลายก็

ต้องบูชา สรรเสริญในที่นั้น คนดีนั้นเขาปฏิบัติแต่ภายใน คือ ไม่โอ้อวด ยกตัว ไม่ยกตน ไม่ข่มผู้อื่น เพราะความเป็นผู้มีฐานะ ๒๐ นั้น นี่คือธรรม ของคนดีคำว่า ธรรม ในหัวเรื่องนี้ เป็นของหรือสิ่งกลาง ๆ ยังไม่จัดว่าดีหรือชั่ว จึงใช้คำว่า ธรรม ของคนดีและของคนชั่ว ต่อมาเราได้ดูที่การกระทำ หรือฟังคำที่เขาพูดแล้วจึงจะตัดสินใจได้ว่า สิ่งนั้นดีหรือชั่ว ในพระสูตรนี้ ท่านยกเอาผู้ที่อยู่ หรือได้คุณธรรมนั้น ๆ ใน ๒๐ ประเภทมาเป็นตัวอย่างว่า แม้ผู้ที่ถึงฐานะ ๒๐ พวกนั้นแล้ว ก็มิได้เป็นประกันว่า จะเป็นคนดีหรือคนชั่วเสมอไป จะต้องมีการละความ โลภ ความโกรธ และความหลงประกอบด้วย พระสูตรนี้ น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี ให้ชาวพุทธที่มีสัทธาจริต เห็นพระอยู่ป่า อยู่เขา อยู่ป่าช้า นุ่ง ห่มผ้าสีกรัก ทำสมาธิได้ถึงขั้นฌานต่าง ๆ ว่าเป็นผู้ที่หมดกิเลสตัณหาแล้ว บางทีท่านอาจมีกิเลสตัณหามากกว่า พระที่อยู่ในกรุงบางรูปเสียด้วยซ้ำ


1 November 2021 Monday



ดู 15 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Budthang

bottom of page